Year: 2024

Dune : ตอนเข้ามารอบแรกไปดูแล้วหลับตั้งแต่สิบนาทีแรกเลยมั้ง แล้วหลับยาวจัด ตื่นมาดูต่อไปรู้เรื่อง เลยลุกกลับแล้วเมมไว้ในหัวว่าหนังแม่งน่าเบื่อ แล้วพอภาคสองเข้า มีแต่คนรีวิวว่าสุดยอด แล้วโรงเอาภาคแรกมาฉายซ้ำเลยดูก็ได้อ่อรู้ละ ทำไมรอบแรกถึงหลับ บทพูดต้นเรื่องมันเข้าใจยาก แล้วพระเอกแม่งฝันบ่อย แต่ถ้าผ่านจุเพวกนี้ได้ เออสนุกเลย ชอบเพลงประกอบมาก ดีทั้งเรื่องเลย design ต่างๆในเรื่องก็เท่ เออ หนุกหวะ เดี๋ยวเสาร์นี้ดูภาคสองต่อ

The zone of interest : เหมือนชื่อหนังภาษาไทยมันสปอยเมนของหนังหรือเปล่าวะ คอพับทั้งเรื่องเลยกุ ขนาดตั้งใจไปสู้กับผู้กำกับคนนี้แล้วนะ แต่ก็แพ้อยู่ดี ไม่ไหว ง่วง

Dune2 : โพสย้อนหลัง วันดูเจอพนักงานเหี้ย หมดรมณ์โพส ภาพสวยจัด ทุกฉากที่มีเผ่าหัวโล้นคือดีไซน์สี สวยสัส เสียงเอฟเฟคทั้งเรื่องต้องดูในโรงเท่านั้น เสียงเปรี๊ยะฝ่าเม็ดทรายคือสุดจัด สนุกคนละเรื่องกับภาคแรกเลย กำเนิดศาสดาประเด็นศาสนาในเรื่องแม่งก็ดี ชอบมาก แต่บางเรื่องก็จะงงๆ เช่นลัทธิอีแม่ เดี๋ยวว่างๆไปดูซ้ำอีกรอบ

บ็อบ มาร์เลย์ one love : ไปดูแบบไม่รู้อะไรเลย รู้แค่ว่า เวลาพูดถึงสายเขียวก็จะพูดถึงเพลงคนนี้ เพลงเร็กเก้ ก็ไม่ใช่แนวที่ฟัง แต่หนังช่วงท่อนแรก คือ โดนเส้นมาก จากง่วงๆอยู่ ตื่นเลย เล่าถึงตอนที่เค้าจะเล่นคอนเสิร์ตในจาไมก้า ที่กำลังมีปัญหาสงครามกลางเมือง ชอบเลย เสียดายที่กลางเรื่องกลับมาเป็นหนังแนวคนปกติ ไม่เน้นความขัดแย้งการเมืองแบบช่วงแรก แต่ก็ไม่แย่นะ จบแบบ เออ ลุงแกเป็นคนโคตรเจ๋งเลยแฮะ

Perfect blue พึ่งเคยดู เจ๋งสัส เจ๋งสัสๆ ดีทุกอย่าง อนิเมชั่นปี 1997 แต่โคตรล้ำเลย เนื้อเรื่อง ภาพ ตัดต่อ เพลงประกอบ ดีทุกอย่าง ดีใจที่ได้ดูในโรง ไว้มาดูซ้ำอีกรอบ

Millennium Actress ยอมใจมาตั้งแต่เรื่องที่แล้วละ (perfect blue) จังหวะ วิธีเล่าเรื่องโคตรแอดว๊านนนนน นี่หนังยี่สิบกว่าปีที่แล้วจริงเหรอวะ เรื่องนี้ต้องตีความหนักหน่อย บางจุดก็เหนือสติปัญญาจริงๆ งง แต่คุ้มไปดูเหอะ สักครั้งในชีวิตดูจอใหญ่ๆมันประทับใจสัสๆ เหลือแต่ที่ house ละ โรงทั่วไปเจอลิง เจอแมดแม็ก ไล่อย่างไว

The Fall Guy : ทรีบิวต์สตั้นท์แมนหนังแอคชั่นยุค 80 90 มั้ง ช่วงแรกๆพระเอกนางเอกจะมีคำพูดงอนง้อกันแบบเพี้ยนๆ ตลกดี แต่พอไปกลางเรื่อง มันจะมีช่วงทำให้รู้สึกว่า มันเยอะไปนิดหนึง หรือเราไม่เข้าใจที่มันจะสื่อก็ไม่รู้ เลยรู้สึกเบื่อๆไปแว้บหนึง พอเข้าฉากแอคชั่นช่วงหลังที่ทรีบิวต์สตั้นแล้ว แม่งเออ สนุกโว้ย ทำโคตรถึง บทพูดดราม่าบางท่อนก็ดี บางท่อนก็ไม่ได้ รวมๆแล้วสนุกดีปล. เห็นแนตเต้โพสว่ามีเอ็นเครดิตด้วย ตัดสินใจอยู่นานว่าจะนั่งรอดีไหม เพราะทั้งโรงมีตูอยู่คนเดียว แต่พอหนังมันสนุกก็เลยนั่งดูต่อ เออคุ้ม นั่งรอไปเหอะ ดีกว่าเอนเครดิตมาเวลยุคหลังๆเยอะเลย

Kindom of the planet of the apes : พล็อตการขึ้นสู่อำนาจแบบภาคหนึ่งความขัดแย้งแบบภาคสอง ความสนุกรวมๆให้เท่าภาคสาม ซึ่งถือว่าชอบ หนังภาคต่อเยอะๆ สำหรับเราก็ให้ตระกูลเอปนี่แหละเป็นอันดับหนึ่งในใจภาคนี้ไปแบบอดนอนมาเกือบ 24 ชั่วโมง กะเข้าไปนอน แล้วเดี๋ยววันหลังมาดูใหม่อีกรอบ แต่โห ไม่ง่วงเลยเพราะเราตื่นตาตื่นใจกับการดูวิวัฒนาการของฝั่งคนและลิง อยากรู้ว่ามันจะบรรจบกับ planet of the apes ยังไง ซึ่งด้วยความเป็นติ่งมั้ง คือชอบมากมีภาคต่อแน่ๆ เมฆมรสุมก่อตัวชัดมาก ภาคหน้าฝนถล่มฟ้าทลายแน่ดูจบหันไปบอกแฟน อยากดูภาคต่อแล้ววววว(เรื่องล่าสุดที่ดูจบแล้วกรี๊ดแบบนี้คือ…

The Ministry of Ungentlemanly Warfare : ชอบดูหนังกายริชชี่ หนังชายแท้ โดนเส้นเราทุกเรื่อง ต่อยหนักๆ เก่งเทพๆ กวนตีนๆ ดูหนังแกทุกเรื่องก็จะมาโพสว่าอยากเห็นแกกำกับ 007 ทุกที รอบนี้ใกล้ 007 สุดละ ชอบแกกำกับพวกจังหวะเท่ๆ จังหวะลุ้นหวาดเสียว การใช้เพลงประกอบ คือแม่นยำมาก ไม่รู้จะอวยยังไง ชอบหนังเท่ๆของแกทุกเรื่อง

Challengers : เข้าไปดูแบบไม่รู้อะไรก่อน ห้านาทีแล้วสัปหงกหนัก แต่พอนางเอกร่างเด็กมา ตื่นเลย ตาสว่าง ขอดีคือเอากันบ่อย ขอเสียคือเห็นหำผู้ชาย ดูแล้วปวดขมับ สไตล์ภาพจัดจัดฉวัดเฉวียนฉากตีเทนนิสคือมีอะไรขนมาใส่หมด ดนตรีประกอบชอบมาก มันคงนัยยะอะไรสักอย่างที่ทั้งภาพทั้งเสียงระดมมาขนาดนี้ แต่ตูไม่เข้าใจ ปัญหาคือ ไม่ค่อยเข้าใจความคิดตัวละครทุกตัวเลย เข้าใจเรื่อง แต่ไม่เข้าใจว่ามึงคิดอะไรอยู่วะ ตอนจบก็แบบคนเข้าใจคงชอบมาก คนไม่เข้าใจคงให้กวย ตูเอง สรุป สนุก เจ๋งดี แต่ไม่ค่อยเข้าใจจุดประสงค์ตัวละครว่ามึงอยากได้อะไรกันแน่