Fitness First

เรื่องของเรื่องก็คือ สองสามเดือนที่ผ่านมาสุขภาพแย่มาก แอดมิทโรงพยาบาลเป็นว่าเล่น หมดงบไปหลักแสนได้ หมอก็ไล่ให้ไปลดน้ำหนัก เนื่องจากควบคุมปากตัวเองไม่ได้ ก็เลยออกกำลังกายแทนก็ได้วะ ตกลงใจไปฟิตเนสครับ ไปวันแรก ก็ออกกำลังกายไปเรื่อๆ วิ่งมั่ง เดินมั่ง เหนื่อยง่ายชิบหาย ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น นอกจาก... ตอนอาบน้ำครับ ห้องน้ำแม่ง ประตูเป็นกระจกขุ่น ไม่มีที่ล็อค!!! เช้ดเข้ ไอ้เราก็มาครั้งแรก ลืมไปต้องอาบน้ำ เอากางเกงในมาแค่ตัวเดียว เชี่ยแล้ว ต้องอาบน้ำแบบแก้ผ้า ประตูเจ้ากรรมก็เสือกล็อคไม่ได้ เอาไงดีวะ ก็เช็คประตูครับ โอเค ไม่มีที่ล็อค…

แง

นั่งดูหนังตัวอย่างสัปดาห์นี้ เจอเรื่องนี้ http://www.youtube.com/watch?v=Y1ca5hTvwfI แง พล็อตมันมีส่วนคล้าย กับที่จะวาดการ์ตูนเลย ดีใจหรือเสียใจดีวะ

อย่ามองน้องแอน

หลังๆไม่ค่อยได้อัพบล็อกเลย พอมีคนอ่านแล้วเกร็ง กลัวเขียนแล้วคนอ่านไม่เข้าใจ แหม่ รู้สึกเท่ ส่วนใหญ่เลยไปพ่นสั้นๆในทวิตเตอร์แทน แล้วก็เหมือนเดิมอีกครั้ง อ่านหนังสือแล้วเกิดไฟอยากเขียน ประโยคย้อนแสง ของประภาส อ่านแล้ว อยากอัพบล็อก

เพ้นสี

พอดีเข้าเฟสบุคเพื่อสมัยมหาลัยเห็นมันรับจ้างเพ้นสีเคสไอโพนไอแพดอยู่ นึกไปนึกมาตอนเรียนตูเคยเขียนโครงการส่งอาจารย์ครับ แต่เป็นการเพ้นเคสเครื่องคอม เพ้นสีโน๊ตบุค คือมันประมานสิบกว่าปีมาแล้ว ยุคนั้นเน็ตยัง 56k อยู่เลย คือจะขอเหมาเอาเองว่าไอ้ที่คิดไว้ตอนนั้นแม่งเป็นจริงแล้วครับ มันเกิดร้านอย่างที่คิดไว้ขึ้นมาจริงๆ ตอนนั้นเขียนไว้เลยว่า คนเราอย่างแสดงความเป็นตัวเองออกมา เป็นแฟชั่น แล้วก็อะไรอีกไม่รู้นานมากจำไม่ค่อยได้ แต่จำได้ว่าได้คะแนนแค่ผ่านเพราะอาจารย์บอกว่ามันเป็นไปไม่ได้ เชี่ย ตอนนี้เทคโนโลยีมันเดินมาถึงจุดที่ตูวาดฝันไว้ตอนเด็กแล้วฮะ คืออยู่ดีๆแล้วนึกได้แล้วปลื้มใจมากเลย อยากเดินไปหาอาจารย์คนนั้นแล้ว บอกว่านี่ไงมันเป็นไปได้แล้ว อาห์ดีใจที่อยู่ดีๆก็นึกออก ตอนนั้นเขียนโครงการก่อนยุคเปลี่ยนหน้ากากมือถืออีก เขียนยุคแพคลิงค์ 555 เอาจริงๆไอ้การเปลี่ยนหน้ากากมือถือแม่งก็คล้ายๆที่เราคิดนะ แต่ตอนนั้นลืมภูมิใจ