เด็กชายกับนกกระสา

เด็กชายกับนกกระสา : เนือยจนหลับ ตื่นมาดูต่อ เริ่มงง เลยหลับต่อ ตื่นมายังคงเนือย หลับต่อ ตื่นมาดูไม่รู้เรื่องหนักเลยหลับต่อ ดูต่อเนื่องประมาณสามสิบนาทีหลัง โคตรงงว่ามันมาถึงจุดนี้ได้ไง กำลังจะหลับต่อ หนังจบพอดี อยากจับเข่าคุยกับพวกรีวิวในทวิตมาก ดูเรื่องเดียวกันไหมวะ

Blue giant

Blue giant : เสียดายที่หนังตัดเอาแค่ครึ่งหลังช่วงเข้าโตเกียวมาทำ เพราะชอบครึ่งแรกมากๆ จังหวะเล่าช่วงแรกมันเฉียบมาก ตอนอ่านมีคิดว่า โอโห้ นี่แม่งโคตรแจ๊สเลย แล้วพอมาเล่าแค่ครึ่งหลังทำให้พระเอกดูเหมือนแค่คนมีพรสวรรค์แต่จริงๆ ถ้าอ่านมังงะ จะรู้ว่าแม่งฝึกมาโคตรแสนสาหัส เสียดายปมเท่ๆของครู ของพี่ชายด้วย โผล่มาในหนังตอนหลัง ใครไม่อ่านมังงะ คงไม่รู้ว่า สองคนนี้แม่งตัวจี๊ดเลย แต่มังงะเล่มจบในไทยดันยังไม่ออก (อ่านเล่มเถื่อนมา แปลอย่างเหี้ย) ซึ่งแม่งโคตรมีพลังเลย ในหนังทำดีนะ แต่ชอบในมังงะมากกว่าข้อดีของหนังคือมีเกร็ดเล็กๆที่มังงะไม่มี เช่นตอนกลองโซโล่ มันมีป้าเจ้าของร้านเคาะมือเอาใจช่วย กลัวตีล่มอะไรแบบนี้ อีกนิดหนึง เสียดายตอนเล่นสดทุกอันยกเว้นตอนจบ มันไม่มีเสียงบรรยากาศรอบข้าง…

สื่อภาษาใจไปถึงเธอ silentlove

สื่อภาษาใจไปถึงเธอ silentlove : ชื่อเหมือนเพลงพี่เจมส์ ผู้หญิงฆ่าใครอย่าแตะเวอร์ชั่นญี่ปุ่น ต้นเรื่องเบียวแบบมังงะนิดๆแต่ดี พระเอกพูดไม่ได้ นางเอกตาบอด สื่อสารด้วยเสียงกระพรวน ไปดูเพราะคิดว่าจะเน้นเรื่องเล่นเปียโนมากกว่านี้ แต่ก็ดูได้เรื่อยๆ ภาพสวยดูเพลิน แต่ตอนจบบ้งชิบหาย ตาลอยปากคว่ำเป็นพักๆ สปอย.....นางเอกกับพระรองโดนจับ พระเอกไปช่วย ตอนกำลังจะแพ้ อีนางเอกตาบอดนะ แต่เสือกหยิบไม้วิ่งไปฟาดผลั๊วะ เข้าหัวพระรอง อีเวร อันนี้ขำแรกนะ พระเอกยอมรับผิด แทนนางเอก อีนางเอกรู้สึกผิดมาก ไปร้องไห้ กับพระเอกตอนไปเยี่ยมพระเอกในคุก แต่นางเอกไม่ไปสารภาพกับตำรวจวะ ว่าเป็นคนตี อันนี้ขำสอง…

Madame web

Madame web: เห็นกระแสรีวิวแล้วทำใจไประดับหนึง แล้วก็สมใจ ช่วงแรกเกริ่นน่าเบื่อจัด เบื่อแบบเบื่อจริงจัง แต่พอเริ่มเข้าเนื้อหาหลักแล้วดันรู้สึกสนุกเฉย อาจเพราะตอนแรกมันเนือยจนน่าเบื่อ พอจังหวะหนังเร็วขึ้นเลยรู้สึกสนุกขึ้นขอสปอยสองอย่าง ที่อยากให้อ่าน ตอนไปดูจะได้สนุกขึ้น1. เด็กสามคนที่นางเอกไปช่วย นิสัยเหมือนตัวประกอบในหนังฆาตรกรรม ที่มักจะทำตัวล่อตีน เช่นรู้ว่ามึงเดินไปคนเดียว มึงตายแน่ๆ แต่มึงก็เดินออกไปแบบไม่มีความกลัวมีฉากหนึงเหี้ยมาก หนีฆาตรกรอยู่ดี เดินไปเต้นอ่อยผู้ชาย ควยมาก2. ไม่มีสไปดี้ออกมาสู้นะ ไม่ต้องคาดหวัง ทำใจสองเรื่องนี้ได้ แล้วค่อยไปดู แม่งสนุกเฉย ปล. ชื่อครอบครัวเพื่อนนางเอก!!

Mean girls

Mean girls : เหมือนดูบาร์บี้ภาคสอง พลังหญิง beauty standard woke มีอะไรใส่มาหมด ไม่อินเลย เอียนมาจากทวิตเตอร์ ไม่ค่อยชอบหนังเพลงด้วย

Poor things

Poor things : คงเส้นคงวามาก ไม่ว่าจะกี่เรื่องก็บันเทิง ดูง่าย แต่เข้าใจยากทุกเรื่อง ช่วงกลางๆเรื่อง เหมือนเปิดหนังสือปรัชญาแล้วอ่านให้คนดูฟัง โคตรงง แต่บันเทิงดี จังหวะหนังแม่นยำมาก อะไรที่ควรจะเป๊ะก็เป๊ะเออ ชอบฉากมาก เหมือนจะย้อนยุค แต่แทรกแฟนตาซีมานิดๆแม่งเท่จัดแล้วก็เหมือนเดิมทุกเรื่องของผู้กำกับคนนี้ คือต้องคิดว่า ถ้าดูอีกรอบน่าจะเข้าใจ แต่ไม่เอาดีกว่า เหนื่อยเกิน ปล. มะเช้าอ่านเฟมทวิตวิจารณ์เรื่องนี้แล้วแหม่งๆ สงสัยเลยไปดูเอง แล้วก็จริงอย่าที่คิด ทำไมคนในทวิตมันจะพูดถึงอะไร ต้องด่าไว้ก่อนด้วยวะ

Dune

Dune : ตอนเข้ามารอบแรกไปดูแล้วหลับตั้งแต่สิบนาทีแรกเลยมั้ง แล้วหลับยาวจัด ตื่นมาดูต่อไปรู้เรื่อง เลยลุกกลับแล้วเมมไว้ในหัวว่าหนังแม่งน่าเบื่อ แล้วพอภาคสองเข้า มีแต่คนรีวิวว่าสุดยอด แล้วโรงเอาภาคแรกมาฉายซ้ำเลยดูก็ได้อ่อรู้ละ ทำไมรอบแรกถึงหลับ บทพูดต้นเรื่องมันเข้าใจยาก แล้วพระเอกแม่งฝันบ่อย แต่ถ้าผ่านจุเพวกนี้ได้ เออสนุกเลย ชอบเพลงประกอบมาก ดีทั้งเรื่องเลย design ต่างๆในเรื่องก็เท่ เออ หนุกหวะ เดี๋ยวเสาร์นี้ดูภาคสองต่อ

The zone of interest

The zone of interest : เหมือนชื่อหนังภาษาไทยมันสปอยเมนของหนังหรือเปล่าวะ คอพับทั้งเรื่องเลยกุ ขนาดตั้งใจไปสู้กับผู้กำกับคนนี้แล้วนะ แต่ก็แพ้อยู่ดี ไม่ไหว ง่วง

Dune2

Dune2 : โพสย้อนหลัง วันดูเจอพนักงานเหี้ย หมดรมณ์โพส ภาพสวยจัด ทุกฉากที่มีเผ่าหัวโล้นคือดีไซน์สี สวยสัส เสียงเอฟเฟคทั้งเรื่องต้องดูในโรงเท่านั้น เสียงเปรี๊ยะฝ่าเม็ดทรายคือสุดจัด สนุกคนละเรื่องกับภาคแรกเลย กำเนิดศาสดาประเด็นศาสนาในเรื่องแม่งก็ดี ชอบมาก แต่บางเรื่องก็จะงงๆ เช่นลัทธิอีแม่ เดี๋ยวว่างๆไปดูซ้ำอีกรอบ

บ็อบ มาร์เลย์ one love

บ็อบ มาร์เลย์ one love : ไปดูแบบไม่รู้อะไรเลย รู้แค่ว่า เวลาพูดถึงสายเขียวก็จะพูดถึงเพลงคนนี้ เพลงเร็กเก้ ก็ไม่ใช่แนวที่ฟัง แต่หนังช่วงท่อนแรก คือ โดนเส้นมาก จากง่วงๆอยู่ ตื่นเลย เล่าถึงตอนที่เค้าจะเล่นคอนเสิร์ตในจาไมก้า ที่กำลังมีปัญหาสงครามกลางเมือง ชอบเลย เสียดายที่กลางเรื่องกลับมาเป็นหนังแนวคนปกติ ไม่เน้นความขัดแย้งการเมืองแบบช่วงแรก แต่ก็ไม่แย่นะ จบแบบ เออ ลุงแกเป็นคนโคตรเจ๋งเลยแฮะ